ไทยเร่งคุมเข้มชายแดน หลังยูเอ็นชี้กัมพูชาเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก

รัฐบาลไทยประกาศยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเข้มงวด หลังรายงานของสหประชาชาติ (UN) ระบุว่ากัมพูชากลายเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก สร้างความกังวลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของภูมิภาค.

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ยืนยันว่าไทยยังไม่ปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชา แต่ได้ยกระดับการควบคุมการผ่านแดนทุกประเภท โดยเน้นมาตรการเข้มข้นเพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์และกิจกรรมผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี.

นายกรัฐมนตรีไทยระบุว่า มาตรการใหม่ครอบคลุมการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดนใน 7 จังหวัด การห้ามบุคคลและยานพาหนะเข้า-ออกโดยไม่มีเหตุจำเป็น รวมถึงการสกัดนักท่องเที่ยวที่มีเป้าหมายเล่นการพนันในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ ยังเน้นตรวจสอบเส้นทางบินและการเดินทางไปยังเมืองเสียมราฐอย่างเข้มงวด.

ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว กองกำลังบูรพาได้ปรับเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้าให้สั้นลง พร้อมลดระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในประเทศจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน สำหรับผู้เดินทางข้ามแดนที่มีเหตุจำเป็นเท่านั้น และห้ามคนไทยเดินทางไปทำงานหรือเล่นการพนันในบ่อนปอยเปตโดยเด็ดขาด.

เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนยังคงลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตั้งจุดตรวจและบังเกอร์ตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้า-ออกและสกัดอาชญากรรมข้ามชาติ3.

รัฐบาลไทยย้ำว่าการยกระดับมาตรการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายความมั่นคงและความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นต่อเวทีโลกว่าประเทศไทยเอาจริงกับการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์และขบวนการผิดกฎหมายข้ามชาติ.

Photo Credit: Thanate Tan, flickr (CC BY 2.0)

Leave a Comment